วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ความรู้เบื้องต้นของพระอภิธรรม

เมื่อตอนที่แล้วผมนำเสนอเนื้อหาบางส่วนที่เป็นเรื่องพระอภิธรรม ก็จะขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมสักเล็กน้อย พระไตรปิฎกส่วนที่เป็นอภิธรรมนั้นเนื้อหายากมากๆครับ โชคดีที่มีพระเถระบางรูปได้รจนาหนังสือที่เป็นเนื้อหาพระอภิธรรมที่อ่านแล้วเข้าใจได้ง่ายขึ้น เป็นเนื้อหาพื้นฐานสำหรับที่จะศึกษาพระอภิธรรมปิฎกต่อไป วันนี้ผมจะนำเนื้อหาจากหนังสือ"อภิธรรมพิสดาร" ชำระโดยพระธรรมมหาวีรานุวัตร ซึ่งผมจะนำมาลงเพียงส่วนที่กล่าวถึงที่มาของพระอภิธรรมเท่านั้น เนื้อหาไม่ยาวครับ ส่วนเนื้อหาที่เป็นพระอภิธรรม7คัมภีร์นั้นผมไม่นำมาลงแน่ครับ ท่านผู้อ่านต้องการทราบเนื้อหาว่าอภิธรรม7คัมภีร์นั้นอธิบายโดยพิสดารอย่างไรนั้นให้ไปหาซื้อหนังสือเล่มนี้ครับ ความยาวกว่า600หน้า ราคาเพียง240บาทเท่านั้น ผมซื้อมาจากร้านหนังสือข้างวัดมหาธาตุ ใกล้ๆท่าพระจันทร์ครับ เล่มนี้ผมแนะนำเลยครับ

อีกประการหนึ่ง ผมขออนุญาตละภาษาบาลีที่ในเนื้อหาประกอบไปกับภาษาไทยตามแบบแผนของตำราทางพระพุทธศาสนาที่ดูงามในเนื้อหาและน่าอ่าน แต่ว่าการพิมพ์ภาษาบาลีทางคีย์บอร์ดนั้นลำบากครับ เพราะมีหลายต่อหลายอักขระที่ไม่มีในคีย์บอร์ดภาษาไทยครับ

************************************************

วาระนี้ อาตมภาพจะได้รับประทานวิสัชนาในพระสัตตปกรณาภิธรรมตั้งต้นแต่คัมภีร์พระอภิธรรมสังคณีทั้ง7พระคัมภีร์ ก็อันการวิสัชนาในพระอภิธรรมนี้ นักปราชญ์ทั้งหลายพึงสันนิษฐานเข้าใจว่า เป็นพระธรรมอันลึกล้ำคัมภีรภาพ ยากที่จะวิสัชนา ยากที่จะฟังทั้ง2ประการ เหตุว่า กระแสพระพุทธบรรหารที่ตรัสเทสนาไว้นั้น ตรัสเทสนาด้วยจิต เจตสิก รูป และนิพพาน อาตมภาพจะรับประทานวิสัขนาพอประดับสติปัญญา เป็นธัมมัสสวนานุตริยาสิสงส์โดยสังเขปกถา มีใจความตามพระบาลีว่า

พระพุทธองค์เสด็จขึ้นดาวดึงส์โปรดพุทธมารดา

อันว่าองค์สมเด็จพระผู้ทรงบุญราศี เมื่อพระองค์ได้ทรงกระทำพระยมกปาฏิหาริย์ ทรมานพวกเหล่าเดียรถีย์นิครนถ์ ณ ภายใต้ต้นคัณฑามพฤกษ์สำเร็จแล้ว ในลำดับนั้น จึงทรงพระดำริว่า สมเด็จพระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีตกาล ทรงกระทำยมกปาฏิหาริย์แล้ว ในพรรษาคำรบ7นั้น เสด็จจำพรรษาในประเทศที่ไหน ก็ทรงเข้าพระทัยว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีตกาล ทรงกระทำยมกปาฏิหาริย์แล้ว ในพรรษาคำรบ7นั้น เสด็จจำพรรษาในดาวดีงส์พิภพ เหตุทรงพระปรารภเพื่อจะสนองพระคุณของสมเด็จพระชนนี ตรัสเทศนาซึ่งพระอภิธรรม7พระคัมภีร์สิ้นไตรมาส3เดือน ก็พอจบพระสัตตปกรณาภิธรรม สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพิจารณาเห็นซึ่งพระพุทธประเพณีดังนี้แล้ว จึงทรงพระดำริต่อไปว่า พระมารดาของตถาคตนี้ มีคุณูปการะความรักใคร่ในพระตถาคตนี้มากกว่ามาก ได้ทรงตั้งความปรารถนามาแต่ครั้งพระศาสนา แห่งสมเด็จพระโลกนาถ อันทรงพระนามชื่อว่า พระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า มาจนตราบเท่าถึงกาลประมาณได้แสนกัล์ป และได้มาเป็นพระมารดาของพระตถาคตในกาลบัดนี้ ควรที่เราตถาคตจะไปสู่ดาวดึงส์พิภพ ตรัสเทสนาซึ่งพระอภิธรรมทั้ง7พระคัมภีร์เพื่อสนองคุณของสมเด็จพระชนนี ครั้นทรงพระดำริฉะนี้แล้ว ก็เสด็จอุฏฐาการจากพระบวรบัญญัตาอาสน์ เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายก็ถวายอภิวาทโดยเคารพ คอยสมเด็จพระบรมครูเจ้าอยู่พร้อมเพรียงกัน สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นก็ยกพระบาทเบื้องขวาย่างเหยียบเหนือยอดไม้คัณฑามพฤกษ์ ยกพระบาทเบื้องซ้ายเหยียบเหนือยอดยุคันธรบรรพต ย่างพระบาทคำรบ3ถึงดาวดึงส์พิภพ อันเป็นที่สถิตแห่งสมเด็จอมรินทราธิราช นับแต่มรรคาที่เสด็จพระพุทธลีลาสแต่มนุษยโลกถึงดาวดึงส์พิภพ ได้6หมื่น8พันโยชน์โดยประมาณ ครั้นเสด็จถึงดาวดิงส์พิภพสถานแล้ว ก็ทรงนิสัชนาการเหนือบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ณ ภายใต้ต้นไม้ปาริฉัตตกพฤกษาชาติ

ท้าวสักกเทวราชทรงป่าวร้องหมู่เทพยดาให้มาประชุมฟังธรรม

สมเด็จอมรินทรเทวราชจึงเสด็จอุฏฐาการจากทิพยอาสน์แล้วมีเทวราชโองการร้องประกาศแก่หมู่เทวดาทั้งหลายว่า ดูก่อน ท่านทั้งหลายผู้เป็นสหายเห็นปานดังเรา ท่านทั้งหลายจงอย่าได้ช้า จงรีบพากันออกมาเถิด บัดนี้ สมเด็จพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จขึ้นมาโปรดถึงพิภพของเราแล้ว เป็นบุญลาภอันล้ำเลิศประเสริฐของเราทั้งหลายหาที่เปรียบปานมิได้ พวกเราจงพากันไปฟังพระสัทธรรมเทศนาในกาลบัดนี้เถิด เทพบุตรและเทพธิดาทั้งหลายนั้น ครั้นได้ยินสำเนียงแห่งท้าวสหัสนัยน์เทวราชร้องประกาศดังนั้น ก็พากันออกจากทิพพาวาสของตนๆ ทรงถือผะอบทองอันเต็มไปด้วยบุปผาชาติ และของหอมเครื่องสักการะซึ่งล้วนแต่เป็นทิพย์ มาสู่ที่เฝ้าแห่งท้าวมัฆวาน แล้วก็คมนาการไปสู่สำนักแห่งสมเด็จพระบรมศาสดา ต่างกระทำสักการะบูชาแล้วก็นั่งอยู่ที่อันสมควรแก่ตนๆตามลำดับ

พระอินทร์ไปอัญเชิญพระพุทธมารดา ณ ชั้นดุสิต

ฝ่ายเทพยดาทั้งหลายอื่นๆในหมื่นจักรวาลต่างก็ถือซึ่งเครื่องทิพยสักการะมาสู่มงคลพิภพแห่งท้าววชิรปาณี แล้วประชุมกันสักการบูชาแก่องค์สมเด็จพระบรมศาสดาจารย์ ถวายนมัสการแล้วนั่งอยู่ในที่อันสมควรเป็นลำดับๆกัน เทพยดาทั้งหลายเหล่านั้นก็นิรมิตกายให้เล็กเท่าอณุปรมาณู แต่ที่เท่าขนทรายจามรีนั้นอยู่ได้10-20องค์ ตราบเท่าถึงแสนองค์ก็มี เมื่อเทพยดาเจ้าทั้งหลาย มีสมเด็จอมรินทราเทวราชเป็นประธาน ได้มาประชุมกันแล้วก็มีนิสัชนาการอยู่ ลำดับนั้น สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้ายังมิได้ทรงแสดงพระสัทธรรมเทศนา ทรงทอดพระเนตรดูในหมู่เทพยดา มิได้เห็นพระพุทธชนนีเสด็จมาที่นั้น จึงมีพระพุทธฎีกาตรัสถามสมเด็จอมรินทรเทวราชว่า มหาราช ดูก่อนมหาบพิตรพระราชสมภารเจ้าผู้เป็นใหญ่กว่าเทวดา พระนางสิริมหามายาผู้เป็นพระพุทธชนนีของพระตถาคตนี้มิได้มาแลหรือประการใด ท้าวสหัสนัยน์ได้สดับพระพุทธฎีกา ก็ทรงอาวัชชนาการกำหนดในพระกมลว่า องค์สมเด็จพระบรมทศพลเสด็จมาในครั้งนี้ มีพระพุทธประสงค์จะตรัสพระสัทธรรมเทศนาโปรดพระราชชนนีให้ได้ตรัสพระอริยมรรค พระอริยผล พระพุทธองค์จึงได้เสด็จขึ้นมา เหตุฉะนี้ จึงได้ตรัสถามถึงพระนางสิริมหามายาเจ้า สมเด็จอมรินทราธิราชทรงพระดำริฉะนี้แล้ว จึงเสด็จไปสู่พิภพดุสิตซึ่งเป็นที่สถิตแห่งพระนางสิริมหามายา ครั้นถึงแล้วจึงถวายอภิวาทโดยเคารพ ยอพระกรน้อมนมัสการแล้วกราบทูลว่า ข้าแต่พระนางสิริมหามายาเจ้าผู้เจริญด้วยสิริสวัสดิ์ บัดนี้ สมเด็จพระพุทธเจ้าผู้ทรงบุญราศีเสด็จมาสู่พิภพแห่งข้าพระบาทประทับ ณ บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ภายใต้ต้นปาริฉัตตกพฤกษ์ ทรงประทับนั่งคอยท่าเพื่อจะตรัสพระสัทธรรมเทศนาโปรดพระองค์ผู้ชนนี ขอเชิญเสด็จไปเฝ้าโดยเร็วพลัน

สมเด็จพระพุทธมารดาทรงถามถึงพระพุทธองค์

พระนางสิริมหามายาพุทธมารดาเจ้าได้ทรงสดับคำสมเด็จอมรินทรามีเทวบัญชาตรัสดังนั้น ก็ทรงพระโสมนัสปรีดา จึงมีสุนทรวาจาว่า ดูก่อนท้าววชิรปาณีผู้เป็นใหญ่กว่าอมรคณานิกรทั้งหลาย พระบรมโอรสาธิราชของเรานั้น ทรงพระสิริรูปโฉมเป็นประการใด พระโอรสของเรานั้นมีเพศเหมือนพรหม หรือเพศเป็นประการใด พระบวรโอรสแห่งเรานั้น มีพระสุรสำเนียงไพเราะเห็นปานใด ทรงพระภูษาสิ่งใด มีรัศมีเห็นปานใด ท่านได้เห็นเป็นประการใด จงบอกแก่เราให้แจ้งในขันธสันดาน

(ยังมีต่อ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น