วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ความรู้เบื้องต้นของพระอภิธรรม (ต่อ)

(ต่อจากครั้งที่แล้ว)

สมเด็จพระพุทธมารดาทรงถามถึงพระพุทธองค์(ต่อ)

ท้าวสักกรินทรเทวราชเมื่อได้สวนาการ ซึ่งพระบัญชาแห่งพระสิริมหามายาเทวบุตรทรงตรัสถามจึงทูลความว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงบุญราศี อันพระรูปพระโฉมแห่งสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น หาบุคคลที่จะกล่าวติว่า พระองค์ไม่ดีไม่งามนั้นหามิได้ พระพุทธองค์ผู้เป็นพระบวรโอรสของพระองค์นั้นมีพระสรีรอินทรีย์หาผู้ใดผู้หนึ่งจะเปรียบเทียบมิได้ทั้ง3ภพ ทรงพระสรีราพยพประดับด้วยพระอสีตยานุพยัญชนะ และพระมหาปุริสลักษณะครบทั้ง32ประการ มีพระรัศมีซ่านออกจากพระบวรกายทั้ง6ประการ มีพระสุรสำเนียงประกอบด้วยองค์8ประการ ไพเราะหาผู้ที่จะเสมอมิได้ฯ พระสิริมหามายาเทพยดาได้ทรงสดับพระวาจา ก็เกิดปรีดากอปร์ด้วยโสมนัสในพระหฤทัยว่า อาตมะเกิดมาในโลกนี้ชื่อว่ามิได้มีผู้ใดเสมอด้วยได้เป็นพระพุทธมารดา

เหตุที่พระนางสิริมหามายาพุทธมารดาเกิดเป็นเทพบุตรอยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิต

นักปราชญ์พึงสันนิษฐานว่า สมเด็จพระพุทธมารดานั้น จำเดิมแต่สิ้นเบญจขันธ์จากมนุษยชาติ ก็ได้ขึ้นไปบังเกิดเป็นเทพบุตรในชั้นดุสิตพิภพ มีนางเทพอัปสรเป็นบริวาร แต่จะได้มีพระบวรสันดานยินดีในอันที่จะเสพเบญจกามคุณกับนางฟ้านั้นหามิได้ อันเป็นวิสัยเป็นธรรมดาแห่งสมเด็จพระพุทธชนนี ถ้าแลว่าบังเกิดเป็นเทพนารี เทพยดาทั้งหลายบรรดาที่ได้เห็นพระสรีรรูปก็จะมีความยินดีว่า พระพุทธชนนีนั้นทรงพระสรีรรูป เทพบุตรและเทพธิดาองค์ใดที่จะเปรียบเสมอมิได้ ถ้าเทพบุตรองค์ใด มิจิตรักใคร่คิดจะสร้องเสพอสัทธรรม เทพบุตรองค์นั้นก็ชื่อว่า ประทุษร้ายแก่สมเด็จพระบรมศาสดา เป็นเหตุยังอาตมะให้ไปตกอยู่ในนิรยาบาย เหตุดังนั้น นักปราชญ์ทั้งหลายพึงรู้ว่า สมเด็จพระพุทธมารดาในปัจฉิมภวิกชาตินั้น ครั้นดับเบญจขันธ์ในชาตินั้นแล้วก็ได้ขึ้นไปบังเกิดในชั้นดุสิต เบื้องหน้าแต่จุติจิตก็บังเกิดเป็นเทพบุตร เพื่อจะป้องกันเสียซึ่งโทษมิให้บังเกิดแก่เทพบุตรทั้งหลาย อันจะเกิดประทุษร้ายด้วยสามารถแห่งราคจริต

สมเด็จพระพุทธมารดาเสด็จลงมาเฝ้าพระพุทธองค์

เมื่อพระนางสิริมหามายา ได้สดับคำสมเด็จอมรินทราเทวราช ตรัสสรรเสริญพระพุทธคุณของสมเด็จพระบรมศาสดา ก็ด่วนๆทรงซึ่งทิพยภูษา พร้อมด้วยเทพอัปสรกัญญา ลงมาจากพิมาน มีท้าวมัฆวานเชิญเสด็จมาในเบื้องหน้า ไปสู่สำนักดาวดึงส์ยังสำนักแห่งองค์สมเด็จพระบรมศาสดา เมื่อได้ทอดพระเนตรเห็นสมเด็จพระบรมศาสดาก็ยิ่งทรงพระปรีดาภิรมย์เพลินชมพระรูปพระโฉม จนลืมอาลัยในดุสิตพิมาน ชมพลางทางพระบวรสันดานเศร้าโศกเสียพระทัยว่า อาตมะนี้เป็นคนมีบุญวาสนาน้อย ประสูติพระพุทธเจ้าผู้เป็นปิโยรสแล้ว มิได้อยู่ชมพระลูกแก้วนานเท่าใด อยู่ได้เพียง7วันเท่านั้น ก็ดับเบญจขันธ์ มิได้เห็นพระปิโยรสผู้ทรงบุญญาภินิหารอยู่เสวยซึ่งฆราวาสสมบัติ ตราบจนได้ตรัสเป็นพระบรมโลกุตตมาจารย์ กำหนดกาลช้านานถึงเพียงนี้ จึงได้มาประสบพบพระบรมราชโอรส พระสิริมหามายาทรงพระกันแสงกำสรด แล้วก็กลับทรงพระสรวลว่า อาตมะนี้ไม่ควรจะปริเทวนาการ เหตุว่าบุคคลผู้เกิดมาในวัฏฏสงสารจะได้เป็นพระพุทธมารดาดังอาตมะนี้ก็ได้ยาก นับด้วยกัล์ปเป็นอันมาก พระพุทธเจ้าจึงจักได้มาตรัสแต่ละพระองค์ แม้พระพุทธมารดาก็มีพระองค์เดียว จะได้มีถึง2พระองค์ก็หามิได้ อาตมะนี้ก็ได้ชื่อว่า เป็นพระพุทธมารดา

พระพุทธองค์ตรัสเรียกพระพุทธมารดาให้ฟังพระอภิธรรม

ในขณะนั้น สมเด็จพระผู้มีพระภาคโลกุตตมาจารย์ผู้บรมศาสดา จึงทรงเหยียดพระหัตถ์เบื้องขวา ตรัสเรียกพระสิริมหามายาเทพบุตร ผู้เป็นพระพุทธชนนี ซึ่งดับเบญจขันธ์สิ้นชีวิตินทรีย์แล้ว และมาบังเกิดในดุสิตพิภพ อันมาสถิตอยู่ ณ ปริมณฑลแห่งไม้ปาริฉัตตกชาติในชั้นดาวดึงส์ ซึ่งกำลังทอดพระเนตรแลดูซึ่งพระพุทธองค์ว่า พระพุทธมารดามาสู่ที่นี่ๆ จะทอดพระเนตรไปใยซึ่งสรีรกายอินทรีย์รูปโฉมอันเป็นของอนิจจัง ฯ พระนางสิริมหามายาได้ทรงสดับ ก็มีพระหฤทัยเป็นอุเบกขาเสด็จเข้าไปสู่ที่ใกล้ เป็นประธานแห่งหมู่เทพยดาทั้งหลาย พระพุทธองค์เจ้าจึงมีพระพุทธฏีกาอภิปราย โปรดประทานพระสัทธรรมเทศนาซึ่งพระสัตตปกรณาภิธรรมทั้ง7พระคัมภีร์ ตั้งต้นแต่คัมภีร์พระสังคณีเป็นลำดับไป

"อธิบายคำว่า อภิธรรมปิฎก"

พระปิฎกนี้ ชื่อว่าพระอภิธรรม อาศัยเหตุว่าเป็นธรรมอันยิ่งเป็นธรรมอันพิเศษ เป็นธรรมลึกละเอียดกว่าธรรมทั้งปวงเหมือนเศวตฉัตรอันยิ่งอันใหญ่ ประเสริฐกว่าเศวตฉัตรทั้งปวงฉะนั้น ฯ แท้จริง อันว่าอภิศัพท์นี้ ย่อมปรากฏในอรรถทั้งหลาย แปลว่าเจริญ แปลว่าประเสริฐ แปลว่ายิ่ง ธรรมนั้น แปลว่า ทรงสัตว์ไว้มิให้ไปสู่อบายและทุคติ ย่อมให้ไปสู่สวรรค์และพระนิพพาน อภิศัพท์ และธรรมศัพท์ประสมกันเข้าจึงสำเร็จรูปเป็นอภิธรรม แปลว่า ธรรมอันเจริญ ธรรมอันประเสริฐ ธรรมอันยิ่ง อภิธรรมปิฎก แปลว่า เป็นหมวดแห่งธรรมอันเจริญ อันประเสริฐ อันยิ่งกว่าพระวินัยปิฎก และพระสุตตันตปิฎก ด้วยสามารถ มีอรรถอันลึกล้ำคัมภีรภาพ แต่การที่จะยังสัตว์ให้ประกอบในทางสวรรค์และทางพระนิพพานนั้นมิได้ต่างกัน เหตุว่ามีพระพุทธฎีกาซึ่งพระองค์ตรัสเทศนาไว้ในโอวาทปาฏิโมกข์ในบทว่า การฟังพระสัทธรรมยากที่จะได้ฟัง บุคคลผู้ใดได้ฟังพระสัทธรรมเทศนา ในพระพุทธศาสนาแห่งสมเด็จพระพุทธเจ้าแล้ว บุคคลผู้นั้นจะไม่ได้ไปสู่ทุคติสิ้นแสนแห่งกัล์ป ซึ่งตรัสดังนี้ จะได้ตรัสเฉพาะพระสูตร พระปรมัตถ์ และพระวินัยก็หามิได้ โดยที่สุดแต่พระบาลี มิได้มีเนื้อความว่าอย่างไร แต่มีจิตเลื่อมใสในกระแสพระพุทธฎีกาตรัสแล้วและฟัง ก็ห้ามทุคติได้แสนกัล์ปเหมือนกัน

***********************************************************

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ

1 ความคิดเห็น:

  1. Best Casinos in Columbus, OH - Mapyro
    Casinos near Columbus, OH. Mapyro 목포 출장샵 is your complete 고양 출장샵 local resource for everything from reviews and information 영주 출장샵 on 밀양 출장안마 restaurants to more 동해 출장안마 than 5000

    ตอบลบ